Tuesday, November 18, 2014

สูตรน้ําหมัก ฮอร์โมนไข่ของผม

สวัสดีครับ
    วันนี้บล็อคชวนชมเงินล้านจะมาแบ่งปันการทำน้ําหมัก ฮอร์โมนไข่ในแบบของผมซึ้งมันก็ไม่ใช่เป็นสูตรอะไรที่ไม่เหมือนใคร แต่สิ่งที่ต่างคือ "ปริมาณ"  ลองดูซิครับหลายๆ สูตรจะใช้ไข่ 5 กิโลกรัม แค่คิดที่ราคาไข่มันก็ขัดกับความคิดของผมแล้ว  ในความคิดของผมตั้งแต่แรกที่ได้ยินว่ามันมีสูตรน้ําหมัก ฮอร์โมนไข่ ผมก็คิดว่ามันคงเป็นอะไรที่คนทุกครัวเรือนทำกันได้ทั้งนั้นแต่  เมื่อได้หาข้อมูลจากที่ต่างๆแล้วมันก็คิดว่ามันไม่ใช่ทุกบ้านที่มีเงินลงทุนน้อยจะเริ่มต้นได้ง่ายเลย แล้วมีอยู่คลิปหนึ่งที่มีกลุ่มแม่บ้านมารวมตัวกันทำน้ําหมัก ฮอร์โมนไข่ ผมเห็นอะไรบางอย่างในนั้นคือ  มาผู้หญิงหนึ่งคนเข้ามาหากลุ่มแม่บ้านกลุ่มนั้นว่าต้องใส่ไข่เท่าไร คุณเชื่อใหมคำตอบที่ได้มันทำให้เขามีอาการสะดุ้ง......"แค่ไส่ไข่ 5 กิโลเอง" อย่าว่าแต่เขาสะดุ้งนะ  ผมเองก็สะดุ้งด้วย
       ลองคำนวณเล่นๆ ดู ไข่ 5 กิโลกรัม x 100(เลขสมมุติ) = 500 บาท นี้คือเงินลงทุนอย่างแรก ซึ่งมันยังไม่รวมค่านมจืด นมเปรี้ยว ค่าลูกแป้งข้าวหมากและกากน้ำตาล ซึ่งมันทำให้ผมคิดว่านี้มันไม่สูตรที่จะประหยัดเงินในกระเป๋าแล้ว  แค่เงินที่ใช้ซื้อไข 500 บาท ผมว่าเอาไปซื้อปุ๋ยเคมีได้หลายลิตรและหลายยี้ห้อแล้ว
        จากวันนั้นผมก็คิดว่ามันน่าจะมีคนที่มาลดสัดส่วนของน้ําหมัก ฮอร์โมนไข่ตัวนี้บ้าง  ผมหาอยู่หลายเดือนแล้วก็ไปเจอคลิป เป็นเจ้าหน้าที่ของเกษตรที่สอนชาวบ้านทำน้ําหมัก ฮอร์โมนไข่ (ชาวบ้านเป็นคนถ่าย) แต่ตัวจริงผมก็เคยเจอกับเจ้าหน้าที่คนนี้มาแล้ว 1 ครั้ง เขาอธิบายได้ดีครับ ลองมาดูสูตรของเขากันมีส่วนผสมดังนี้

1.กากน้ำตาล ครึ่งกิโล
2.ไข่ไก่ 7 ฟอง
3.นมจืดกล่องกลาง 1 กล่อง
4.นมเปรี้ยวกล่องเล็กหรือเท่ากับขวดยาคูล 1 ขวด
5.ลูกแป้งข้าวหมาก 1 ลูก

สิ่งที่ต้องมีคือขวดน้ำขนาด 1.45 ลิตรและไม้ 1 อัน


ขั้นตอนทำดังนี้

1.เทกากน้ำตาลครึ่งกิโลใส่ภาชนะ
2.ใส่ไข่ไก่ลงไปแล้วตีให้มันเข้ากัน (ผมไม่เอาเปลือกไข่)

3.ใส่นมจือ
4.ใส่นมเปรี้ยว
5.ใส่ลูกแป้งข้าวหมาก


 6.ใช้ไม้ตีให้เข้ากันนาน 3-5 นาที


7.เทใส่ขวดน้ำขนาด 1.45 ลิตร 
เพราะถ้าขวดเล็กกว่านี้คุณต้องเปิดขวดระบายแก็สมันบ่อยๆ

วิธีใช้
น้ำ 20 ลิตรต่อน้ำหมัก 2 ช้อนโต๊ะ
- ก่อนผลไม้ออกดอก
- หลังจากจากติดผลหรือหัวแล้ว

ถ้าเป็นดอกไม้ใช้ น้ำ 20 ลิตรต่อน้ำหมัก 1 ช้อนโต๊ะ



สุดท้ายนี้คือสูตรที่ผมจดมา

0 comments:

Post a Comment